ประสิทธิผลของรูปแบบการคัดกรองผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลอุทัย

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการการคัดกรองผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยนอกให้เกิดประสิทธิผลในการจัดบริการซึ่งจะลดระยะเวลาการรับบริการ และผู้รับบริการมีความพึงพอใจเปรียบเทียบก่อนและหลังการพัฒนาเพิ่มขึ้น กลุ่มตัวอย่างคือผู้รับบริการที่เข้ารับบริการงานผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลอุทัย ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบระยะเวลาการรับบริการและระดับความพึงพอใจก่อนและหลังพัฒนารูปแบบการบริการด้วยสถิติ independent t-test ผลการศึกษาพบว่าระยะเวลาการใช้บริการเฉลี่ยก่อนและหลังปรับพัฒนารูปแบบบริการโดยเวลาที่ใช้ในการรับบริการตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลจนกลับบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05) โดยพบว่าระยะเวลารับบริการเฉลี่ย การซักประวัติ การวัดความดันและช่างน้ำหนัก พบแพทย์ หัตถการหลังตรวจ และการชำระเงิน มีระยะเวลาในการรับบริการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05)  ขณะที่การเจาะเลือด การพบแพทย์หลังตรวจ และการพบพยาบาลหลังตรวจ มีระยะเวลารับบริการเพิ่มขึ้น การศึกษาความพึงพอใจของผู้รับบริการก่อนและหลังปรับพัฒนารูปแบบบริการ พบว่าค่าคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อการบริการภาพรวมก่อนและหลังการพัฒนาเปลี่ยนจากระดับพอใจมากเป็นระดับพอใจมากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยคะแนนความพึงพอใจหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนามากที่สุดคือการที่บุคลากรตอบคำถามเมื่อมีความสงสัย สรุปว่ารูปแบบคัดกรองผู้รับบริการที่พัฒนาขึ้นโดยประยุกต์ใช้หลักการไคเซ็น (Kaizen) ร่วมกับแนวทาง MOPH ED triage ซึ่งเป็นหลักการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองผู้รับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลอุทัยได้และสามารถนำแนวทางการพัฒนาที่เกิดขึ้นไปใช้ในการพัฒนาองค์กรในแผนกต่อไปได้