ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลบ้านกลาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพ, ความรู้, ทัศนคติ, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มตัวอย่าง คือ อสม. ตำบล
บ้านกลาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 196 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ และหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.76 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 50.50 มีทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 58.70 และมีพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 65.30 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพ ของ อสม. ได้แก่ อายุ (r = 0.167, p-value = 0.020) และความรู้เกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพ
(r = 0.206, p-value = 0.004) ดังนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรมีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพให้แก่ อสม.อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะส่งผลทำให้อสม. มีพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพที่ถูกต้องมากขึ้นด้วย
คำสำคัญ : พฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพ, ความรู้, ทัศนคติ, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
เอกสารอ้างอิง
ดลยา พามา และเกษม ชูรัตน์. (2567). ศึกษาความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย. ในรายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการ เรื่อง “สาธารณสุขยุคใหม่ เพื่อผู้สูงวัยใส่ใจเทคโนโลยีดิจิทัล” (น. 431). คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุภาภรณ์ ไตรรัตน์ และสุรเดช สำราญจิตต์. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก
ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์. ในการประชุมวิชาการระดับชาติ (Proceeding) ครั้งที่ 1 ประจำปี2565 เรื่อง “ทิศทาง แนวโน้มวิจัย และนวัตกรรมทางสุขภาพหลังวิกฤตโควิด-19” (น. 55). คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข. (2567). รายงานผลการสํารวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ.2566. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
Cronbach, L. J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16 (3), 297-334.
Bloom, B.S. (Ed.). Engelhart, M.D., Furst, E.J., Hill, W.H., Krathwohl, D.R. (1956). Taxonomy Of Educational Objectives, Handbook : The Cognitive Domain. New York: David McKay Co Inc.
Guskey, T. R., & Bloom, B. S. (2005). Formative classroom assessment and theory research and implications. University of Kentucky.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคเหนือ)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

