การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะชมรมผู้สูงอายุเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจาก การใช้สารเสพติดประเภทกัญชาในผู้สูงอายุ จังหวัดน่าน
คำสำคัญ:
การพัฒนารูปแบบ, การเสริมสร้างสมรรถนะ, การป้องกันและลดผลกระทบ, ชมรมผู้สูงอายุ, สารเสพติดประเภทกัญชาบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินประสิทธิผลรูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะชมรมผู้สูงอายุเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้สารเสพติดประเภทกัญชาในผู้สูงอายุ จังหวัดน่าน กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณ ได้แก่ คณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่อำเภอสันติสุข อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเวียงสา อำเภอปัว และอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จำนวน 200 คน กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพ ได้แก่ ประธาน รองประธาน และเลขานุการชมรมผู้สูงอายุ ในพื้นที่วิจัยจำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม แนวคำถามการสนทนากลุ่ม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบการสังเกตและการบันทึกภาคสนาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ด้านสภาพ สถานการณ์ และศักยภาพชมรมผู้สูงอายุ พบว่า ผู้สูงอายุมีความรู้ และบทบาทในการป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้สารเสพติดประเภทกัญชาในระดับปานกลาง และมี เจตคติในระดับมาก ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้กัญชา คือ การมีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ การรับรู้ข่าวสารกัญชาจากสื่อออนไลน์ และการขาดความรู้เกี่ยวกับทางกฎหมายกัญชาและบทลงโทษ ผลกระทบ ได้แก่ การสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย การเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยที่เกิดจากการใช้ยากัญชาที่ไม่ได้มาตรฐาน จุดแข็งและโอกาสการพัฒนา ได้แก่ ผู้นำชุมชนและชมรมผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพ มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสมาชิกของตนเอง 2) รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะชมรมผู้สูงอายุเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้สารเสพติดประเภทกัญชา มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ได้แก่ (1) การจัดทำแผนกลยุทธ์ (2) การเสริมสร้างสมรรถนะชมรมผู้สูงอายุ (3) การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่าย และ (4) การรณรงค์ป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้สารเสพติดประเภทกัญชา ประสิทธิผลของรูปแบบ พบว่า หลังทดลองใช้รูปแบบฯ ผู้สูงอายุมีความรู้ เจตคติ และบทบาทในการป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้สารเสพติดประเภทกัญชาสูงกว่าก่อนดำเนินการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง มีการบูรณาการเนื้อหาความรู้เรื่องการใช้กัญชาในหลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุ ชุมชนและภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดำเนินงานระดับมากที่สุด และผู้สูงอายุมีความพึงพอใจต่อรูปแบบในระดับมาก ร้อยละ 90.10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำรูปแบบที่ได้จากการวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีสภาพปัญหาในลักษณะเดียวกัน รวมถึง ในกลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน
เอกสารอ้างอิง
พิมพ์พิสาข์ จอมศรี และคณะ. (2565). การพัฒนาโปรแกรมการเสริมสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพต่อการใช้ กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้อง ในประชาชนจังหวัดเชียงราย. https://cads.in.th/cads/media/ upload/1613622243-Article Canabis CR_V2 cutoff EN 2.pdf
พรพรรณ มนสัจจกุล. (2566). รูปแบบการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคโดยการ มีส่วนร่วมของชุมชนห้วยโรง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิจัยการพยาบาลและ วิทยาศาสตร์สุขภาพ. 15 (1), 82-98.
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562. (2562, 18 กุมภาพันธ์) ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 136, ตอนพิเศษที่ 19 ก.
สุจิตตา ฤทธิ์มนตรี และมานพ คณะโต. (2560). การเสพติดกัญชาและผลกระทบ. วารสารกรมการแพทย์, 42 (4), 84-87.
สุพัสรี คำมูล และสมจิต แดนสีแก้ว. (2562). ผลการวิเคราะห์แนวทางการป้องกันการใช้กัญชาโดยการมีส่วน ร่วมของชุมชน. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 37 (3), 134-143.
สุปาณี จินาสวัสดิ์. (2559). พฤติกรรมสุขภาพผู้สููงอายุในเขตเทศบาลตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัด ลำปาง, [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต], บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยพะเยา.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2567. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน. (2567). รายงานมาตรฐานสาเหตุการป่วย/ตายของสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดน่าน ปีงบประมาณ 2567. น่าน: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน.
อิสรภาพ มาเรือน. (2564). รายงานวิจัยการพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างความรู้และความตระหนักของ ผู้สูงอายุต่อผลกระทบของการใช้สารเสพติดประเภทกัญชาโดยใช้กลไกการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เชิงพื้นที่ตำบลสถาน อำเภอปัว จังหวัดน่าน. สงขลา: แผนงานศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
Assanangkornchai, S., et al. (2021). A study of the situation of medical marijuana use in Thailand. https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/5346?locale attribute=th (in Thai).
Dontumprai., et al. (2021). Free cannabis as a medical plant. Journal of Roi Kaensarn Academi, 6 (1), 184-198. (in Thai).
Fischer, B., et al. (2017). Lower-risk cannabis use guidelines: a comprehensive update of evidence and recommendations. American journal of public health, 107 (8), 1-12.
Prapaspong. Et.al, (1999). Textbook of Medical AID (Past-Sard-Song-Kraw): Madical wisdom and Literary Heritage of the Nation Bangkok. Thailand language Department of Ministry of Education.
United Nation. (1962). Single Convention on Narcotic Drug 1961. New York: United Nation.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคเหนือ)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

