การพัฒนาระบบนัดและเตรียมผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR แผนกผู้ป่วยนอกหูคอจมูก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์
คำสำคัญ:
ASSR, แผนกผู้ป่วยนอกหูคอจมูก, ผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิผลของระบบนัดและเตรียมผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR แผนกผู้ป่วยนอกหูคอจมูก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
วิธีการศึกษา: เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัย ได้แก่ กลุ่มผู้ให้บริการ ประกอบด้วยพยาบาล นักเวชศาสตร์สื่อความหมาย เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ พนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้และพนักงานพิมพ์ รวมทั้งสิ้น 8 คน เลือกแบบเจาะจง โดยบุคลากรต้องมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยเด็กนัดตรวจ ASSR ไม่น้อยกว่า 1 ปี และกลุ่มผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยเด็กนัดตรวจ ASSR จำนวน 60 คน เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย (1) แบบบันทึกข้อมูลการเข้าระบบนัดตรวจ (2) แบบสอบถามผู้ให้และผู้รับบริการตรวจ ASSR 3 ด้าน คือโครงสร้าง กระบวนการและผลลัพธ์ (3) แบบประเมินการให้ Chloral Hydrate สำหรับการตรวจการได้ยินด้วยคลื่นสมองในเด็ก และ(4) แผ่นพับ คิวอาร์โค้ดการ์ตูนอนิเมชัน 2 มิติ เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR
ผลการศึกษา: หลังพัฒนาระบบนัดและเตรียมผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR โดยการปรับระบบนัดตรวจเพิ่มวันละ 2 ราย การโทรศัพท์แจ้งเตือนนัดหมายล่วงหน้าและโทรศัพท์นัดหมายใหม่หากไม่มาตามนัด การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อมาตรวจ ASSR โดยใช้สื่อแผ่นพับ คิวอาร์โค้ด รวมถึงการใช้แบบประเมินการให้ Chloral Hydrate สำหรับการตรวจการได้ยินด้วยคลื่นสมองในเด็ก ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเด็กมารับการตรวจเพิ่มมากขึ้น จากเดิมร้อยละ 23.3 เป็นร้อยละ 70.0 และระยะเวลารอคอยนัดตรวจลดลงจาก 8 เดือน เหลือ 6 เดือน ผู้ให้บริการมีความคิดเห็นและพึงพอใจมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value< 0.05) และผู้มารับบริการกลุ่มหลังพัฒนาระบบนัดและเตรียมผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR มีความคิดเห็น พึงพอใจมากกว่ากลุ่มก่อนพัฒนาระบบนัด
สรุป: การพัฒนาระบบนัดและเตรียมผู้ป่วยเด็กตรวจ ASSR ส่งผลจำนวนผู้ป่วยเด็กมารับการตรวจเพิ่มมากขึ้น ระยะเวลารอคอยนัดตรวจน้อยลง ผู้ให้และผู้มารับบริการมีความคิดเห็น พึงพอใจมากขึ้น
คำสำคัญ: ASSR, แผนกผู้ป่วยนอกหูคอจมูก, ผู้ดูแลผู้ป่วยเด็ก
เอกสารอ้างอิง
เชิญขวัญ ฐิติรุ่งเรือง, ภาณินี จารุศรีพันธุ์, เสาวรส ภทรภักดิ์. การคัดกรองการสูญเสียการได้ยินในเด็ก.จุฬาลงกรณ์เวชสาร. 2561;62:53-65.
พรรณี ตุยาใส, ดวงพร วัฒนเรืองโกวิท. การพัฒนาแนวทางการตรวจคัดกรองการได้ยินของทารกแรกเกิด. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2566;16(3):156-168.
World Health Organization. Newborn and infant hearing screening: current issues and guiding principles for action [Internet]. Geneva: WHO; 2009 [cited 2024 Jan 13]. Available from: https://www.who.int/publications/guidelines/newborn-infant-hearing-screening.
Joint Committee on Infant Hearing. Special Article Year 2000 Position statement: Principles and Guidelines for Early Hearing Detection and intervention Programs. Pediatrics. 2000;106(4):798-817.
ราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย. คู่มือการตรวจประเมิน วินิจฉัย และแนวทางช่วยเหลือเด็กพิการ. กรุงเทพมหานคร 2558.
ขวัญชนก ยิ้มแต้. การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2547;19(4):241-8.
นรุตม์ วงศ์สาคร, นเรศ แตงใหญ่, ชวพล อิทธิพานิชพงศ์, พิชญ์ อมตมหัทธนะ, พิมพ์เพชร สุขุมาลไพบูลย์. การศึกษาทบทวนของโปรแกรมการคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิดทุกรายในจังหวัดนครสวรรค์: คาดหวังผลลัพธ์ที่ดีขึ้น. วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3. 2024;21(1):15-22.
ดนัย ชินคำ, นิธิเจน กิตติรัชกุล, วิลาวรรณ ล้วนคงสมจิตร, ชนิดา เอกอัครรุ่งโรจน์, ณชวิศ กิตติบวรดิฐ, ศรีเพ็ญ ตันติเวสส, และคณะ. การศึกษาการขยายบริการตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิดในประเทศไทย:ความเป็นไปได้ ต้นทุน และความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์. โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายสุขภาพ; 2565.
ฝ่ายเวชระเบียนและสถิติ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์. รายงานสถิติผู้ป่วยนอก ประจำปี 2564-2566.นครสวรรค์: โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์; 2566.
Donabedian A. Evaluating the quality of medical care [Internet]. [cited 2024 Jan 13]. Available from: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC2690293/pdf/milq0083-0397.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Region 3 Medical and Public Health Journal - วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

