ผลของโปรแกรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบต่อความรู้และพฤติกรรม การดูแลเด็กโรคปอดอักเสบของผู้ดูแล
คำสำคัญ:
โปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน, เด็กโรคปอดอักเสบ, พฤติกรรมการดูแลบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบของผู้ดูแล โดยเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้และคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบก่อนและหลังได้รับโปรแกรม
วิธีการศึกษา: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) แบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลัง (One groups pretest - posttest design) กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลเด็กที่ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่เข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยในโรงพยาบาลหนองปรือ จำนวน 30 คน เก็บข้อมูลในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 จำนวน 30 คน กลุ่มตัวอย่างได้รับโปรแกรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบ ประยุกต์จากแนวคิดทฤษฎีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของ Bandura (1997) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) สร้างสัมพันธภาพ (Emotional arousal) 2) จัดให้ผู้ดูแลได้ดูตัวแบบ (Vicarious Experiences) 3) การให้ผู้ดูแลฝึกทักษะที่จำเป็นด้วยตนเอง (Mastery Experiences) 4) ผู้ดูแลเข้ากลุ่มและชักจูงด้วยคำพูด (Verbal Persuasion) 5) ผู้วิจัยติดตามเยี่ยมผู้ดูแลที่เตียงผู้ป่วย แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบทดสอบความรู้ในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบและแบบสอบถามพฤติกรรมของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบ ผ่านการตรวจสอบความตรงและความเชื่อมั่น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและการทดสอบแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลัง (Paired t test)
ผลการศึกษา: จากการศึกษาพบว่า ผู้ดูแลมีคะแนนความรู้ในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 12.73 (SD=2.18) เป็น 19.47 (SD=0.62) และคะแนนพฤติกรรมในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 91.57 (SD=11.77) เป็น 109.63 (SD=3.46) การเพิ่มขึ้นทั้งสองด้านมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<.05) โดยผลต่างของคะแนนความรู้ระหว่างหลังและก่อนการทดลองเท่ากับ 6.73 (SD=2.19) และผลต่างของคะแนนพฤติกรรมเท่ากับ 18.06 (SD=11.03)
สรุป: โปรแกรมการให้ความรู้และส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบมีประสิทธิผล โดยช่วยเพิ่มความรู้และพฤติกรรมของผู้ดูแล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สอดคล้องกับ ทฤษฎีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของ Bandura
คำสำคัญ: โปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน, เด็กโรคปอดอักเสบ, พฤติกรรมการดูแล
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Pneumonia in children [Internet]. 2021 [cited 2024 Jul 7]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/pneumonia
Wardlaw TM, Johansson EW, Hodge M, World Health Organization, United Nations Children’s Fund (UNICEF). Pneumonia: the forgotten killer of children [Internet]. Geneva: World Health Organization; 2006. Available from: https://iris.who.int/handle/10665/43640
กรมควบคุมโรค. รายงานสถานการณ์โรคปอดอักเสบในประเทศไทย พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข; 2566.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี. รายงานสถานการณ์โรคปอดอักเสบในจังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. 2565. กาญจนบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2565.
World Health Organization. Pneumonia: Key facts [Internet]. 2021 [cited 2024 Jul 15]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/pneumonia
Nguyen LT, Pham TH, Do MT. Mothers’ knowledge and practice in caring for children with pneumonia at a national pediatric hospital in Vietnam. IGMIN Res. 2022;3(2):74–81. Available from: https://www.igminresearch.com
Purwati NH, Rustina Y, Supriyatno B. Knowledge and healthcare-seeking behavior of family caregivers of children with pneumonia: A qualitative study in an urban community in Indonesia. Belitung Nurs J. 2021;7(2):107–12.
Siswanto E, Bhuiyan SU, Chompikul J. Knowledge and perception of pneumonia disease among mothers of children under five years attending Nakhon Pathom General Hospital, Thailand. J Public Health Dev. 2007;5(2):43–54.
Danal PH, Nurhaeni N, Agustini N. Perceptions of Parents of Under-5-Year-Old Children with Pneumonia on the Effects of Tobacco Smoke: A Phenomenology Study in Manggarai, Eastern Indonesia. Journal of Public Health Research. 2022;10(1_suppl). Doi: 10.4081/jphr.2021.2409
Minz A, Agarwal M, Singh JV, Singh VK, Sahu R. Caregiver’s knowledge about childhood pneumonia: a study from rural areas and urban slums of Lucknow. Natl J Community Med. 2019;10(2):62–8.
Chheng R, Thanattheerakul C. Knowledge, attitudes, and practices to prevent pneumonia among caregivers of children aged under 5 years old in Cambodia. Int J Multidiscip Res Publ. 2021;4(4):24–31.
Bandura A. Self-efficacy: The exercise of control. New York: W. H. Freeman; 1997.
ศิราณี อิ่มน้ำขาว วิภาดา ดวงพิทักษ์ ไรจูณ กุลจิติพงศ์และอลิสา ผาบพุทธา. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อความสามารถของผู้ดูแลเด็กโรคปอดบวม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม. 2022;19(3):165-76.
กัญญาภัทร กระสินธุ์, ดวงใจ มาละเงิน. ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ต่อการดูแลเด็กป่วยด้วยโรคปอดอักเสบของผู้ปกครอง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม. 2567;47(Suppl):S26–S39.
Kajungu D, Nabukeera B, Muhoozi M, Ndyomugyenyi DB, Akello MC, Gyezaho C, et al. Factors associated with caretakers’ knowledge, attitude, and practices in the management of pneumonia for children aged five years and below in rural Uganda. BMC Health Serv Res. 2023;23:700. Doi: 10.1186/s12913-023-09713-z
ภาวิณี ช่วยแท่น, ภรณี วัฒนสมบูรณ์, สุปรียา ตันสกุล. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมป้องกันการกลับมารักษาซ้ำในมารดาเด็กโรคปอดอักเสบ. วารสารสุขศึกษา. 2563;43(1):12–24.
ปิยฉัตร ปะกังลำภู, เสาวมาศ คุณล้าน เถื่อนนาดี. ผลของโปรแกรมพัฒนาการรับรู้ความสามารถของผู้ดูแลต่อพฤติกรรมการดูแลและอัตราการกลับมารักษาซ้ำด้วยโรคปอดอักเสบในเด็ก 0–5 ปี. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2561;36(3):99–106.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Region 3 Medical and Public Health Journal - วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

