This is an outdated version published on 2021-02-09. Read the most recent version.

Sexual Intercourse among Female Students in Public High Schools, Khonsawan District, Chaiyaphum Province

การมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิงในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาล อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ

ผู้แต่ง

  • Rodjakorn Luemongkol Khonsawan hospital, Chaiyaphum province

บทคัดย่อ

Background: Early onset of sexual intercourse among teenager is associated with lifetime prevalence

of sexual partners, risk of exposure to sexually transmitted infections including HIV/AIDS and unwanted pregnancy.

Methods: A cross-sectional study aimed to identify the prevalence and factors associated with sexual

intercourse among female students from four public high schools in Khonsawan district, Chaiyaphum province, Thailand. The structured self-administered questionnaire was used to collect the data between May and June 2020. Data were analyzed using descriptive statistic and multiple logistic regression analysis was then performed to compute adjusted odds ratio (ORadj) with 95% confidence interval (95%CI).

Results: The result showed that 640 respondents, the age range was 12-18 years. About 88 (13.75%) of respondents had history of sexual intercourse. Among sexually active respondents, 17 (19.32%) reported they had started sex before the age of 15 years. More than half (62.50%) of sexually active respondents reported that the main reason for initiation of sexual intercourse was falling in love and (35.23%) of them experienced their first sexual intercourse owing to sexual desire. In addition, only 50 (56.81%) of sexually active respondents reported that their partners used condom at recent intercourse. Multiple logistic regression indicated that significant factors associated with having sex were age > 15 years (ORadj =  4.83, 95%CI: 2.72-8.57, p < 0.001), did not live with parents (ORadj =  48.54, 95%CI: 3.62-650.45, p = 0.003), and ever used alcohol (ORadj =  8.78, 95%CI: 4.99-15.45, p < 0.001).

Conclusions: These fingdings suggest that interventions aiming to delay first intercourse may need to consider targeting aspects of  these associated factors.

Keywords: sexual intercourse, female students, public high school

 

ภูมิหลัง: การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่นจะมีความสัมพันธ์กับการมีคู่นอนหลายคนในชีวิต

ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอชไอวี/โรคเอดส์ รวมถึงปัญหาของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

วิธีการทำวิจัย: การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิงในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาล 4 แห่งในอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ เก็บข้อมูลระหว่างเดือน พฤษภาคม ถึง มิถุนายน 2563 โดยใช้แบบสอบถามแบบมีโครงสร้างชนิดตอบด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบลอจิสติกแสดงผลด้วยค่า Adjusted odds ratio (ORadj) และช่วงเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 (95%CI)

ผลการวิจัย: ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 640 ราย มีอายุอยู่ระหว่าง 12-18 ปี โดยกลุ่มตัวอย่าง 88 ราย (ร้อยละ13.75) มีประวัติว่าเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ในจำนวนของกลุ่มตัวอย่างที่เคยมีเพศสัมพันธ์นั้น พบว่า 17 ราย (ร้อยละ 19.32) ให้ประวัติว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก่อนอายุ 15 ปี ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่เคยมีเพศสัมพันธ์เกินกว่าครึ่ง (ร้อยละ 62.50) ให้เหตุผลของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกว่าเกิดจากความรัก และร้อยละ 35.23 ให้เหตุผลว่าเกิดจากแรงปรารถนาทางเพศ นอกจากนั้นแล้วยังพบว่า มีเพียง 50 รายเท่านั้น (ร้อยละ56.81) ที่ให้ประวัติว่าคู่นอนได้ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบลอจิสติกพบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ อายุ > 15 ปี (ORadj =  4.83, 95%CI: 2.72-8.57, p < 0.001) การไม่ได้อาศัยอยู่กับผู้ปกครอง  (ORadj =  48.54, 95%CI: 3.62-650.45, p = 0.003) และประวัติเคยดื่มแอลกอฮอล์ (ORadj =  8.78, 95%CI: 4.99-15.45, p < 0.001)

สรุปการวิจัย: จากผลการศึกษานี้ ผู้วิจัยจึงแนะนำแนวทางการดำเนินงานที่จะลดการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนซึ่งควรที่จะคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้

คำสำคัญ: การมีเพศสัมพันธ์ นักเรียนหญิง โรงเรียนมัธยมสังกัดรัฐบาล

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-02-09

เวอร์ชัน