ความครอบคลุมของงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในหญิงตั้งครรภ์และเด็กชาวพม่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปี 2548

ผู้แต่ง

  • วิทยา สวัสดิวุฒิพงศ์ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
  • ตวิษา อ่ำผ่อง โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
  • ปราณี มหาศักดิ์พันธ์ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
  • ฉวีวรรณ เชาวกีรติพงศ์ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
  • พัชรี เงินตรา โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก

คำสำคัญ:

ผู้อพยพ, ความครอบคลุม, งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค, โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

บทคัดย่อ

รายงานนี้ได้นำเสนอผลการสำรวจความครอบคลุมของงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในหญิงตั้งครรภ์และเด็ก ชาวพม่า ที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยสุ่มสำรวจด้วยวิธี 30-cluster sampling technique ในเดือนพฤษภาคม 2548 ในกลุ่มมารดาที่มีเด็กอายุ 0-1 ปี เพื่อประเมินความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักในช่วงตั้งครรภ์ที่ผ่านมา และกลุ่มมารดาหรือผู้ปกครองที่มีเด็กอายุ 2-3 ปี เพื่อประเมินความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนป้องกันโรคในเด็ก รวมกลุ่มตัวอย่างละ 210 ราย จากการศึกษาพบว่ามีเพียงร้อยละ 37.1 ของมารดาที่มีเด็กอายุ 0-1 ปี ที่ทราบว่าสตรีมีครรภ์ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก อย่างไรก็ตามร้อยละ 91.0 ได้ฝากครรภ์ในช่วงตั้งครรภ์ที่ผ่านมา และร้อยละ 71.0 ได้รับวัคซีนครบถ้วนในช่วงตั้งครรภ์ที่ผ่านมา ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน คือ ระดับการศึกษาที่ต่ำ การขาดความรู้เรื่องวัคซีนที่ควรได้รับในช่วงตั้งครรภ์ และการไม่ได้ฝากครรภ์ สำหรับกลุ่มมารดาหรือผู้ปกครองชาวพม่าที่มีเด็กอายุ 2-3 ปี มีประมาณร้อยละ 27.6-30.5 ที่ทราบถึงแต่ละชนิดของวัคซีนป้องกันโรค ที่เด็กควรได้รับตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี ร้อยละ 91.9 ของเด็กในกลุ่มมารดา/ผู้ปกครองที่สำรวจเคยได้รับวัคซีนบีซีจี (วัณโรค) ร้อยละ 67.1 และ 34.8 ได้รับวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ/ไอกรน/บาดทะยัก และ โปลิโอ ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 ตามลำดับ ร้อยละ 64.3 ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดแล้ว และมีเพียงร้อยละ 34.8 ได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนในเด็ก คือ มารดาหรือผู้ปกครองมีอายุน้อย และระดับการศึกษาต่ำ ระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทยยังไม่นาน และการขาดความรู้เรื่องวัคซีนป้องกันโรคที่เด็กควรได้รับการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องถึงประโยชน์ของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งควรดำเนินการทั้งในมารดาหรือผู้ปกครองที่มีเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงวัยเจริญพันธุ์ และประชาชนทั่วไป โดยใช้สื่อสุขศึกษาที่เหมาะสม ควรดำเนินงานผสมผสานไปกับงานอนามัยแม่และเด็กอื่น ๆ การจัดบริการ สาธารณสุขเชิงรุกในชุมชน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยอาสาสมัครสาธารณสุขชาวพม่าเป็นผู้ช่วยเหลือ เพื่อช่วยเพิ่ม ความครอบคลุมของงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และลดอุบัติการณ์โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในชาวพม่าที่ อาศัยอยู่ชายแดนไทย-พม่าลงได้

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-09-14

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้

1 2 > >>