การรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกลุ่มชายรักชายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา

ผู้แต่ง

  • เนตรนภา พรหมมา สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • รักษิตา ธีรยินดีมีสุข สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • กนกสิริ จันทร์สว่าง สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • กัญญารัตน์ เป็งพะยอม สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • จิณณ์วรัชญา พิมจันทร์ สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • ณิชาภัทร จันทะมาลา สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • อภิญญา เนตรสังข์ สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

คำสำคัญ:

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ชายรักชาย, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และศึกษาปัจจัยที่สามารถทำนาย การรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชายรักชาย อายุระหว่าง 18-24 ปี จำนวน 116 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม ชนิดถามตอบด้วยตนเอง เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม พ.ศ. 2566 และวิเคราะห์ข้อมูลโดย สถิติเชิงพรรณนาและสถิติวิเคราะห์ได้แก่ Chi-square test และ Multiple logistic regression ผลการวิจัยพบว่า กลุ่ม ตัวอย่างมีการรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สูง ร้อยละ 70.69 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ สถานภาพความรัก (OR=6.621, 95%CI= 1.469-29.841), ประวัติการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (OR=1.466, 95%CI=1.288-1.668), ทัศนคติ เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (OR=3.498, 95%CI=0.112-0.730) และแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (p=<0.001, OR=12.727, 95%CI= 4.645 - 34.874) ส่วนปัจจัยที่สามารถทำนายการรับรู้ความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ สถานภาพความรักแบบมีคนคุย (ORAdj. = 26.911, 95%CI= 3.168 - 228.612) และแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ (ORAdj. = 15.974, 95%CI= 4.214 - 60.557) ซึ่งสามารถทำนายได้ร้อยละ 46 ดังนั้นมหาวิทยาลัยควรจัดกิจกรรมส่งเสริมแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพเกี่ยวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องในกลุ่มนักศึกษาชายรักชายที่ยังไม่มีแฟน

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

พิณทิพย์ สุชาติลิขิตวงศ์, สุวพร อนุกูลเรืองกิตติ์. ความรู้ สำหรับประชาชนโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2566]. แหล่งข้อมูล: https://www.pidst.or.th/A732.html

Da Ros CT, da Silva Schmitt C. Global epidemiology of sexually transmitted diseases. Asian Journal of Andrology 2008;10(1):110-4.

Auslander BA, Rosenthal SL, Blythe MJ. Sexual development and behaviors of adolescents. Pediatric annals 2005;34(10):785-93.

Von Schreeb S, Pedersen SK, Christensen H, Jørgsensen KM, Harritshøj LH, Hertz FB, et al. Questioning risk compensation: pre-exposure prophylaxis (PrEP) and sexually transmitted infections among men who have sex with men, capital region of Denmark, 2019 to 2022. Eurosurveillance 2024;29(13):2300451

Otive RM, Crisostomo S, Zevallos 1., Ninahuanca C, Montalvo M. Sexual behavior of men who have sex with men and its relationship to sexually transmitted infections during an outbreak of the human monkeypox virus. Acta Medica 2023; 65(4):133-8.

World Health Organization. Sexually transmitted infections (STIs) [Internet]. 2023 [cited 2023 Oct 11. Available form: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, รายงานประจำปี พ.ศ. 2565 กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (อินเทอร์เน็ต), 2565 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2566), แหล่งข้อมูละ https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1484920231010090902.pdf

กรกฎ ตวงผาสุข, การศึกษาการเข้าถึงและพฤติกรรม การใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVII)-19). กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (อินเทอร์เน็ต), (สืบค้น เมื่อ 1 ต.ค. 2566). แหล่งข้อมูล: htps://dic.moph.go.th/uploads/publish/1361420221221025749.pdf

สิริพร มนยฤทธิ์, สถานการณ์โรคติดต่อทางผศสัมพันธ์ 5 โรคหลักในยาวชน ประทศไทย ปีงบประมาณ พ.ศ.2557-2561 (อินเทอร์เน็ต), 2563 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2586). แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/uploads/pub-lish/1006020200507053840.pdf

มนูญ วงษ์มะเซาะห์, ทำความรู้จักกับ LGBTQ ตัวย่อที่มี ความหมายและประเด็นที่น่าสนใจในความก้าวหน้าของกลุ่ม LGBTQI ในปี 2020 (อินเทอร์เน็ต). 2564 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2556) แหล่งข้อมูล: https://www.amnesty.or.th/latest/blog/860/

ไทยรัฐออนไลน์, ชายรักชายในไทย ข้อมูลใหม่มีอยู่ 3%(อินเทอร์เน็ต). 2559 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2566),แหล่ง ข้อมูล: https://www.thairath.co.th/news/local/707729

สสส. เผยชายไทยรักร่วมเพศ 6 แสนคน ติดเอดส์เพิ่ม 11% ในรอบ 24 ปี (อินเทอร์เน็ต), 2555 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 25661. แหล่งข้อมูล: htps://www.thaihealth.or.th/?p= 279976

กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์เอชไอวีประเทศไทย ปี 2564 (อินเทอร์เน็ต] 2565 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2566), แหล่งข้อมูล:https://hivhub.ddc.moph.go.th/Download/RRTTR/Factsheet_ HIV_2564_TH_V2.pdf

Balán IC, Lopez-Rios J, Dolezal C, Rael CT, Lentz. C. Low STI knowledge, risk perception, and concem about infection among men who have sex with men and trans-gender women at high risk of infection. Sexual health. 2019;16(6):580.

Balán IC, Carballo-Diéguez. A, Ventuneac A, Remien RH, Dolezal C. Ford J. Are HIV-negative men who have sex with men and who bareback concemed about HIV infection? Implications for HIV risk reduction interven tions. Archives of Sexual Behavior 2013;42:279-89.

Chan ASW, Tang PMK, Yan E. Chemsex and its risk factors associated with human immunodeficiency virus among men who have sex with men in Hong Kong. World Journal of Virology 2022;11(4):208.

Daniel WW. Biostatistics: a foundation for analysis in the health sciences, 8 ed. Hoboken, NI: Wiley/John Wiley & Sons, 2005.

ถนอม นามวงศ์, จิราพร เขียวอยู่ การพัฒนาสเกลวัดการรับ รู้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ในกลุ่มชายที่มีเพศ สัมพันธ์กับชาย. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2558;24(4): 670-8.

นพนัฐ จำปาเทศ, จริยาวัตร คมพยัคฆ์, ลวิตรา พิธาวุฒิกร. พฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ การรับรู้ตามแบบความเชื่อด้าน สุขภาพและลักษณะส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อซิฟิลิสของชายที่มารับบริการที่คลินิกโรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์ในเขตเมือง (อินเทอร์เน็ต]. 2561 (สืบค้นเมื่อ 1 ต.ค. 2566]. แหล่งข้อมูล: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/361

ปิญชาน์ ปรัชญคุปต์, จตุพร เหลืองอุบล, วรพจน์ พรหมสัตยพรต. การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมความรอบรู้ด้าน เอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น จังหวัด ยโสธร. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2566;9(2):30-9.

ลวิตรา พิธาวุฒิกร, รสพร กิตติเยาวมาลย์, ศุภโชค คงเทียน, เอกชัย แดงสอาด, ปณิธี ธัมมวิจยะ, จริยาวัตร คมพยัคฆ์ และคณะ. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อซิฟิลิสในกลุ่มชายที่ มีเพศสัมพันธ์กับชาย [อินเทอร์เน็ต]. 2565 (สืบค้นเมื่อ1 ต.ค. 2566]. แหล่งข้อมูล: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1675

อัญชลี ติยะบุตร, สุดถนอม กมลเลิศ, รวีวัลย์ บัณเย็น. ปัจจัย ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของชาย ที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2563;13(4):50-9.

สรรพพร วิรัตนโภคิน, ศรีจันทร์ พลับจั่น, ปานจันทร์ อิ่มหน้า, เบญจมาส ยศเสนา. ปัจจัยทำนายทัศนคติต่อการ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนต้นในเขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง. วารสาร-วิชาการสาธารณสุข 2566;32(1):S15-27.

พงษ์ศักดิ์ ป้านดี, ปรีย์กมล รัชนกุล, วนลดา ทองใบ. ปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดต่อทางเพศ-สัมพันธ์ ในกลุ่มเยาวชนชายรักชายในสถาบันอุดมศึกษา วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี 2566:6(3):59-74.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้