การประเมินอุปสรรคเชิงระบบในการบริหารจัดการวัณโรคดื้อยาหลายขนาน: กรณีศึกษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี
คำสำคัญ:
วัณโรคดี้อยาหลายขนาน, การค้นหา, การเข้าสู่ระบบการรักษา, การรายงาน, การรักษา, การจัดบริการ, ประเทศไทยบทคัดย่อ
การประเมินการควบคุมวัณโรคในประเทศไทยครั้งที่ 5 โดยองค์กรนานาชาติ เมื่อปี 2556 พบว่า การรายงานจำนวนผู้ป่วยวัณโรคดี้อยาหลายขนานในประเทศไทยมีสัดส่วนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินระบบการรายงาน การค้นหา การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และระบบการรักษาของวัณโรคดี้อยาหลายขนานเพื่อนำไปใช้กำหนดนโยบายและปรับปรุงการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยการทบทวนเวชระเบียน ผู้ป่วยวัณโรคปอดที่สงสัยวัณโรคดื้อยาทุกรายในปีงบประมาณ 2555 ถึง 2557 ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรีและสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่รวมถึงบันทึกอุปสรรคแต่ละขั้นตอนลงในแบบบันทึกข้อมูล ผลการศึกษา ได้ทบทวนเวชระเบียน ผู้ป่วยวัณโรคทั้งหมด 282 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงวัณโรคดื้อยาหลายขนาน 96 ราย แต่มีการรายงานเข้าสู่ระบบทะเบียนวัณโรคเพียง 54 รายคิดเป็นร้อยละ 56.3 มีการส่งเพาะเลี้ยงเชื้อเพียง 66 รายคิดเป็นร้อยละ 68.8 พบผู้ป่วย วัณโรคดื้อยาหลายขนาน 8 รายจากผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงวัณโรคดี้อยาหลายขนาน 96 ราย (ร้อยละ 8.3) หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของผู้ป่วยวัณโรค (จากผู้ป่วย 282 ราย) และได้เข้าสู่ระบบการรักษาเพียง 6 ราย ในส่วนของอุปสรรคในแต่ละ ขั้นตอนพบว่า ไม่ได้มีการส่งเพาะเลี้ยงเชื้อร้อยละ 31.3 สาเหตุที่ไม่ได้ส่งเพาะเลี้ยงเชื้อเกิดจากปัจจัยด้านผู้ให้บริการ ทั้งหมด เช่น ไม่ส่งตรวจหรือส่งตรวจไม่ตรงข้อบ่งชี้ สรุปการศึกษาครั้งนี้พบว่าระบบ การบริหารและบริการผู้ป่วยวัณโรค ดื้อยาหลายขนานยังมีจุดอ่อนและอุปสรรคต่าง ๆ ที่สถานพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยวัณโรคและวัณโรคดี้อยาหลายขนานรวมทั้งสำนักวัณโรคและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคสามารถพัฒนาได้ ทั้งในด้านของการค้นหา การจัดบริการการเข้าสู่ระบบการรักษา และการจัดการเชิงระบบ เพื่อควบคุมสถานการณ์วัณโรคดี้อยาหลายขนานต่อไป
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

