ประเทศไทยประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ภายใต้แผนยุทธศาสตร์เอดส์ชาติ พ.ศ. 2550 -2554
คำสำคัญ:
แผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ, การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ, การเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์, เอชไอวี, เอดส์บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลนโยบายและการบริหารจัดการแผนงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ของประเทศตามแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550-2554ในด้านของความสำเร็จ ข้อจำกัดและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เพื่อนำผลการประเมินมาจัดทำยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2555 - 2559 ต่อไป วิธีการศึกษาประกอบด้วยการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคม ทั้งในกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอื่น ๆ รวมทั้งการเก็บข้อมูลในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งกระจายใน 4 ภูมิภาค เพื่อศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานและการแปลงนโยบายและแผนไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยเป็นการศึกษาทั้งแบบย้อนหลังและไปข้างหน้า ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2554 ผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยยังไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายการเข้าถึงบริการหลักเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ เนื่องจากการป้องกันการติดเชื้อของประชากรทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆอยู่ในระดับต่ำ ยกเว้น การป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกที่สามารถครอบคลุมได้เกือบร้อยละ 100ของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ สำหรับการเข้าถึงบริการด้านการดูแลรักษาความครอบคลุมของการได้รับยาต้านไวรัสเอดส์สูงถึงร้อยละ76 ของผู้ติดเชื้อที่สมควรได้รับยาต้านฯ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน สำหรับเป้าหมายการลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้ได้ครึ่งหนึ่งเมื่อสิ้นแผนฯ ยังไม่บรรลุเป้าหมาย เนื่องจากพฤติกรรมเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในประชากรกลุ่มต่าง ๆ อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย และยังไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในโมเดลการคาดประมาณเมื่อเริ่มต้นแผนฯ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยสามารถชะลอและลดการ ติดเชื้อเอชไอวีลงได้ตามเป้าหมายหลักที่ 6 ของการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDG6) ส่วนผลในการเข้าถึงบริการยาต้านไวรัสเอดส์อย่างทั่วถึงและความเท่าเทียมของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษานั้น ดีขึ้นมาก จากนโยบายการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาต้านไวรัสสูงถึงประมาณ 240,000 คน ในปีพ.ศ. 2556 จุดอ่อนที่สำคัญในแผนฯ ที่ผ่านมา คือ ค่าใช้จ่ายด้านเอดส์ของประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นไปเพื่อการรักษาพยาบาลมากกว่าร้อยละ 70 โดยค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันการติดเชื้อมีเพียงร้อยละ 13นอกจากนี้การขาดประสิทธิภาพในการแปลงแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติไปสู่ผู้ปฏิบัติการในระดับจังหวัด รวมทั้งความ อ่อนแอของระบบการติดตามและประเมินผล โดยพบว่า โครงสร้างและกลไกติดตามและประเมินผล มีการกำหนดขึ้นในระดับส่วนกลาง แต่การดำเนินงานให้เกิดผลในทางปฏิบัติทำได้ค่อนข้างจำกัด กลไกระดับชาติศูนย์อำนวยการบริหารจัดการปัญหาเอดส์แห่งชาติ ยังขาดศักยภาพทั้งในด้านการบริหารจัดการและในด้านวิชาการรวมทั้งขาดการติดตามผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ต่าง ๆในทุกระดับ ผลการประเมินดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจัดการปัญหาเอดส์แห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัญหาอุปสรรคและข้อจำกัดต่างๆได้ถูกนำไปปรับปรุงและแก้ไขในแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2555 - 2559
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

