ความสัมพันธ์ระหว่างระดับแคดเมียมในปัสสาวะ กับความชุกของโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ในประชากรผู้ใหญ่ที่สัมผัสสารแคดเมียม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

บทคัดย่อ

รายงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างระดับแคดเมียมในปัสสาวะ กับความชุกของโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ในประชากรผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนของสารแคดเมียมในสิ่งแวดล้อม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรวจหาระดับแคดเมียมและแคลเซียมใน ปัสสาวะ ความหนาแน่นของมวลกาย ความดันโลหิดสูง เบาหวาน และนิ่วในทางเดินปัสสาวะในกลุ่มประชากรตัวอย่างจำนวน 795 ราย สำหรับการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างระดับแคดเมียมในปัสสาวะ กับความชุกของโรคที่ศึกษานั้นใช้ Chi-square test สำหรับการเปรียบเทียบสัดส่วน และใช้ multiple logis-tic regression สำหรับ multivariate analysis ผลการศึกษาพบว่า ประชากรกลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ยประมาณ 50 ปี มีค่าเฉลี่ยเรขาคณิตของระดับแคดเมียมในปัสสาวะเท่ากับ 5.6 ไมโครกรัม/กรัมครีเอตินีน พบความ ชุกของโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 33.3 โรคเบาหวานร้อยละ 6.2 และนิ่วในทางเดินปัสสาวะร้อยละ 8.9 ความ ชุกของโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ จะพบสูงสุดในกลุ่มที่มีระดับแคดเมียมในปัสสาวะ ≥ 15 ไมโครกรัม/กรัมครีเอตินีน อย่างไรก็ตามความชุกของโรคที่ศึกษา 3 โรคดังกล่าวไม่พบมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับระดับแคดเมียมในปัสสาวะ แต่เนื่องจากประชากรที่สัมผัสสารแดดเมียม มักมีความผิดปรกติของไดมากกว่าประชากรทั่วไป ดังนั้นการตรวจกัดกรองเพื่อคันหาและรักษาโรคหรือภาวะที่อาจทำให้ไตเสื่อมได้ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ จึงมีประโยชน์ในการช่วยลดความรุนแรงของภาวะไดเสื่อมในประชากรกลุ่มนี้ลงได้