ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าช้าง ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก, PRECEDE Frameworkบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎี PRECEDE Framework เพื่อศึกษาข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริมกับพฤติกรรม
การดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลท่าช้าง ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 102 คน เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสอบถาม แบบสอบถามนี้
มีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC = 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ไค-สแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน กำหนดระดับนัยสำคัญ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 70.60 อายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 52.90 รายได้ครอบครัว 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 51.96 จบการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 36.27 ระยะเวลาเฉลี่ยที่เป็นโรคเบาหวาน 8.24 ปี ปัจจัยนำมีความรู้ระดับต่ำ ( = 7.75, S.D.= 7.755) ทัศนคติระดับปานกลาง ( = 2.08, S.D.= 0.299) ปัจจัยเอื้อด้านการเข้าถึงแหล่งบริการทันตกรรมระดับปานกลาง ( = 1.96, S.D.= 0.420) ปัจจัยเสริมด้านการได้รับการสนับสนุนจากบุคคลระดับสูง ( = 2.35, S.D.= 0.523) และการได้รับข้อมูลข่าวสารระดับต่ำ
( = 2.09, S.D.= 0.585) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ชนิดที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 คือ ระดับการศึกษา ( 2= 5.549) รายได้ครอบครัว (r = 0.293) ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก (r = 0.247) ทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก (r = 0.346) การได้รับ
การสนับสนุน (r = 0.524) การได้รับข้อมูลข่าวสาร (r = 0.575) ดังนั้น ควรจัดอบรมให้ความรู้และปรับทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคในช่องปากในอนาคต
คำสำคัญ : ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก, PRECEDE Framework
เอกสารอ้างอิง
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย. (2567). สรุปรายงานการป่วย ปี พ.ศ.2566. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2567. https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/ 2024/11/ill_2023_full_07112567.pdf.
กิตติศักดิ์ นามวิชา. (2565). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ในเขตตำบลสำโรง อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 13 (2), 1-12.
ถาวร มาต้น และเสน่ห์ แสงเงิน. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุจังหวัดสุโขทัย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 47 (1), 67-78.
ทวีวัฒน์ พิชัย และนภา สุขกิจ. (2563). การเข้าถึงบริการทันตกรรมและพฤติกรรมการดูแลช่องปากในผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารวิจัยสุขภาพและการศึกษา, 14 (2), 45-60.
วรรณี รุ่งโรจน์ และสุรชัย พัฒนานันท์. (2563). พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ในการทำความสะอาดช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานในประเทศไทย. วารสารการแพทย์และสาธารณสุข, 28 (3), 77-84.
วริศรา ขลัง และสุรเดช สำราญจิตต์. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านช่องแค ตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 เรื่อง “ทิศทาง แนวโน้ม วิจัย และนวัตกรรมทางสุขภาพหลังวิกฤตโควิด-19” (หน้า 49). กรุงเทพมหานคร: จัดโดย สมาคมพยาบาลทหารบก และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ ZOOM Meeting. วันที่ 24 - 25 พฤษภาคม พ.ศ.2565 เวลา 08.00 - 16.30 น.
วัชราภรณ์ เสนสอน, สุภาภรณ์ ฉัตรชัยวิวัฒนา และเสาวนันท์ บำเรอราช. (2553). โรคเบาหวานกับสุขภาพช่องปาก. วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 13 (2), 132-147.
ศิรินทิพย์ พันธ์สุข, วิชญา รัตนกุล, และสิรินดา ปัญญารัตน์. (2563). การสนับสนุนจากบุคลากรทางการแพทย์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยโรคเบาหวาน. วารสารทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย, 23 (2), 112-124.
ศิริพันธ์ หอมแก่นจันทร์. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล ในเขตอําเภอแม่ทะ จังหวัดลําปาง. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สมชาย ไทยดี และจุฑามาศ แก้วมณี. (2565). ผลการศึกษาผลกระทบของโรคแทรกซ้อนต่อพฤติกรรมการดูแล สุขภาพช่องปาก: การศึกษากลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง. วารสารการแพทย์และสุขภาพช่องปาก, 30 (2), 125-135.
สุดา อักษรดิษฐ์ และดลนภา ไชยสมบัติ. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยในโรงพยาบาลเทิง จังหวัดเชียงราย.วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ, 10 (1), 31-49.
สุธาทิพย์ วังคีรี. (2567). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลช่องปากผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษาการแพทย์และสุขภาพ, 13 (1), 1-12.
สํานักทันตสาธารณสุข กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข. (2567). รายงานผลการสํารวจสภาวะสุขภาพ ช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ.2566. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์. (2567). ร้อยละผู้ป่วยเบาหวานที่ขึ้นทะเบียนและมารับการรักษาต่อเนื่อง จังหวัดเพชรบูรณ์ ปีงบประมาณ 2567. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2567. HDC เพชรบูรณ์ https://pnb.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php.
Green, L. W., Kreuter, M. W., Deeds, S. P., & Partridge, K. (1980). Health education planning: A diagnostic approach: California: Mayfield Publishing.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper & Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคเหนือ)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

