การศึกษาผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตำบลหนองคล้า อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร

ผู้แต่ง

  • อรพิมพ์ พันธชัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่เจริญพร
  • วรรณี จิวสืบพงษ์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์

คำสำคัญ:

แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, โรคหลอดเลือดสมอง, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: การศึกษาโปรแกรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตำบลหนองคล้า อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการประยุกต์ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง

วิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi–experimental research) กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ที่มีอายุระหว่าง 35-60 ปี และมีทะเบียนบ้านอยู่ในตำบลหนองคล้า อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร แบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม เก็บข้อมูลก่อนและหลังการทดลอง (Two-groups pretest-posttest design) โดยจัดให้เป็นกลุ่มทดลองจำนวน 35 คน ได้โปรแกรมการประยุกต์ ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและ กลุ่มควบคุมจำนวน 35 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ในช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง กันยายน 2566

ผลการศึกษา: พบว่า คะแนนความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่า กลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.001; 95%CI : 0.51 ถึง 1.77) การรับรู้เกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดสมอง พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.001; 95%CI : 0.51 ถึง 1.77) พฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.001; 95%CI : 7.54 ถึง 11.03) และระดับความดันโลหิต กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความดันโลหิต Systolic ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.001; 95%CI : -11.62 ถึง-3.46) และค่าเฉลี่ยความดันโลหิต Diastolic ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value=0.046 ; 95%CI : -6.85 ถึง -0.06) เนื่องจากโปรแกรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เป็นกิจกรรมที่มีการร่วมกันแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ปัญหา สร้างความเข้าใจของสาเหตุ อาการ ความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากโรคความดันโลหิตสูง สร้างความตระหนักในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม และตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต จนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้น จึงบอกได้ว่า การจัดโปรแกรมการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ มีผลต่อการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้

สรุป: การจัดโปรแกรมการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ มีผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้ จึงควรให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ระดับตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงในโรคต่างๆ ได้

คำสำคัญ: แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, โรคหลอดเลือดสมอง, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, โรคความดันโลหิตสูง

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข. โรคหลอดเลือดสมอง. [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 28 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://pr.moph.go.th/print.php?url=pr/print/2/02/180623/

สมศักดิ์ เทียมเก่า และคณะ. อุบัติการณ์โรคหลอดเลือดสมองประเทศไทย. วารสารประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย. 2566;39(2):39-46.

Chantra R, Sansuwan R, Heeaksorn C. Care for stroke patients with a multidisciplinary team. J R Thai Army Nurs. 2017;18:49–55.

Health Data Center. อัตราป่วยรายใหม่ของโรคความดันโลหิตสูงต่อแสนประชากรในปีงบประมาณ 2560-2565. [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?catid=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาการุณย์. ความดันโลหิตคืออะไร. [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/472

ศิริอร สินธุ, บรรณาธิการ. การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. นนทบุรี: วัฒนาการพิมพ์; 2565.

ศิริอร สินธุ, บรรณาธิการ. การพยาบาลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง: ความดันโลหิตสูงและหัวใจล้มเหลว. นนทบุรี: วัฒนาการพิมพ์; 2565.

Becker MH. The health belief model and sick role behavior. Health Educ Monogr. 1974;2(4):409-419.

Bloom, B. S., Engelhart, M. D., Furst, E. J., Hill, W. H., Krathwohl, D. R. (1956); Taxonomy of educational objectives: The classification of educational goals. Handbook I: Cognitive domain; New York: David McKay Company.

ธนกฤต พงศ์ภูมิพิพัฒน์. ประสิทธิผลของโปรแกรมเสริมพลังปรับเปลี่ยนลดเสี่ยง Stroke ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น. 2566;4(1):92–115.

ชื่นกมล สิทธิยอดยิ่ง. แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้โรงพยาบาลนภาลัย จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารศาสตร์สุขภาพและการศึกษา. 2565;2(2):46-60.

Meng-Yao, W. et al. Effects of a comprehensive reminder system based on the health belief model for patients who have had a stroke on health behaviors, blood pressure, disability, and recurrence from baseline to 6 months a randomized controlled trial. The Journal of Cardiovascular Nursing. 2020 Mar/Apr;35(2):p156-164.

ประภาธิดา วุฒิชา, เบญจพร ทองมาก, กมลพัชร วิสุทธิภักดี, และคณะ. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงของกลุ่มเสี่ยง บ้านแม่คาตลาด ตำบลแม่คา อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ. 2563;6(1):29–42.

กรรณิการ์ เงินดี. ประสิทธิผลของโปรแกรมการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. คณะสาธารณสุขศาสตร์: มหาวิทยาลัยพะเยา; 2564.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-01-30

วิธีการอ้างอิง

พันธชัย อรพิมพ์, และ จิวสืบพงษ์ วรรณี. 2025. “การศึกษาผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตำบลหนองคล้า อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร”. Region 3 Medical and Public Health Journal - วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 22 (1). Nakhonsawan Thailand. https://thaidj.org/index.php/smj/article/view/15786.

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)