Development of Knowledge Improvement Model Combining with Matrix Program Therapy for Relapse Prevention among Patients with Substance Use Disorders

Authors

  • Neeranut Chotiwarangkul

Keywords:

Developed knowledge improvement, knowledge improvement program, matrix program

Abstract

Objective   : To develop and evaluate the effectiveness of knowledge improvement model combining with the matrix therapy program to prevent relapse in drug addict patients.

Method     :  This research and developmental method comprise 2 steps ; firstly, developing knowledge improvement model combining with matrix therapy program. Secondly, Using the model and evaluating a pre-post test score over the harm of  CNS stimulants, cannabis and inhalant in every patient without psychiatric problems and having been treated with the program at least 1-1.30 hrs /week in total of 4 months(16 times) at the Department of Psychiatric Sawanpracharak Hospital during July 1, 2018-June 30, 2019. Paired  samples t test(p<0.05) was used to compare pre and post knowledge between 3 months remission rate to 92%  Key Performance Indicator of Ministry of Public health.

Results     : The model consists of 17 items of CNS stimulant knowledge - 10 cannabis and the other 7 of inhalants.  Patients completed the drug therapy program as 43 cases of CNS stimulant, 27 of cannabis and 12 of inhalant accordingly. Significantly, found the differences score in 3 groups after comparing pre-post test. The CNS stimulants average score increases  36.7%(X 10.93 1.82,P 0.001), cannabis 79.6% (X 4.90 1.88 and 8.80   0.78, P  0.001) whereas inhalants 83.7%. (X 3.69  0.89 and 6.78 1.06,P 0.001). The 3 months remission rate increases from 80.4% in 2017 to 92.7% in 2019 and the patients who completed the program were 61.3 in 2017 to 81.2% in 2019 after the study. The patient’s satisfaction were 64.5% at most and 27.1% at more one.

Conclusion  : The developed knowledge improvement model with matrix  therapy program to prevent relapse in patients with drug addict were effective. The differences between pre and post test in 3 groups were significant. The 3-month remission rate increases relating to the target indicator of Ministry of Public Health. The study showed  good effective results for patients, unify model that was easier for therapist to handle.

Key word :  Developed knowledge improvement,  knowledge improvement program, matrix program

References

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มงานโรคไม่ติดต่อ งานสุภาพจิตและยาเสพติด. ข้อมูลรายงานผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดเขตสุขภาพที่ 3 ปี2559-2560. นครสวรรค์: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์; 2560.

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี. คู่มือบำบัดรักษาผู้ติดยาและสารเสพติด แบบผู้ป่วยนอก รูปแบบการบำบัดความคิดและพฤติกรรม : Matrix Program [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี; 2555 [เข้าถึงเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2560]. เข้าถึงได้จาก: https://www.cuprint.chula.ac.th

Ling W, Rawson RA, Grella CE. Matrix institute on addictions treatment programs [internet]. 2014 [cited 2019 Mar 30]. Available from: http://www.uclaisap.org/publications/biennial%20report/2014/

matrix-institute-on-addictions.html

โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด. การสำรวจความคิดเห็นในการบำบัดยาเสพติด ปี 2560. นครสวรรค์: โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์; 2560.

สวัสดิ์ อุ่นใจ, กิจวัฒ นาถวิล, ญาธษา พันวิไล, สุกัญญา กาญจนบัตร, มานพ คณะโต. การประเมินการใช้

เมทริกซ์โปรแกรมในการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดของโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง

สาธารณสุข 7 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน.วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน

มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2560;5(4):674-5.

โสภิต แกล้วกล้า, ทัศนีย์ ลักขณาภิชนชัช. การประเมินผลการบำบัดรักษาด้วยโปรแกรมจิตสังคมบำบัด (Matrix Program) ของคลินิกบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร[อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2251[เข้าถึงเมื่อ 3ธันวาคม 2561]. เข้าถึงได้จาก: https://dric.nrct.go.th/

index.php?/Search/SearchDetail/263274

เกษม ตั้งเกษมสำราญ. โปรแกรมจิตสังคมบำบัดผู้ป่วยนอกแบบประยุกต์ (รายงานผลการวิจัย)[อินเทอร์เน็ต]. ขอนแก่น: โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์;2546 [เข้าถึงเมื่อ 18 มกราคม 2561].เข้าถึงได้จาก: https://suicide.dmh.go.th/abstract/details.asp?id=296

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน. รูปแบบการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด [อินเทอร์เน็ต]. ลำพูน: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน; 2561 [เข้าถึงเมื่อ 2 มิถุนายน 2562]. เข้าถึงได้จากhttps://www.lamphunhealth.go.th/_ssj/webmanager/uploads/2018-03-29092221

โรงพยาบาลนาน้อย. การพัฒนารูปแบบการบําบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด[อินเทอร์เน็ต]. น่าน: โรงพยาบาลนาน้อย; 2559 [เข้าถึงเมื่อ 3 ธันวาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก http:// www.nanoihospital.com/pdf/30M

/5Learns2552 Manul.pdf

เสริมสุข ราษฎร์ดุษฎี, ดุษณีย์ ชาญปรีชา, อภิรดี พฤกษาพนาชาติ, รุจิรา อาภาบุษยพันธ์. การตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวัยทำงาน[อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี; 2553 [เข้าถึงเมื่อ 11 เมษายน 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://www.pmnidat.

go.th/thai/index.php?option=com_content&task=view&id=1203&Itemid=106

กนิษฐา ไทยกล้า, สุภวัฒน์ บุญมา, อริสรา สิทธิ, ชูพงศ์ กันยะ, นัทกร สามปันสัก. สถานการณ์ปัญหายาเสพติด การแพร่ระบาดและผลกระทบในกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ท่องเที่ยว : ศึกษากรณี เมืองเชียงใหม่ และเมืองลําพูน [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์; 2555 [เข้าถึงเมื่อ 10 มกราคม 2561]. เข้าถึงได้จาก:http://nctc.oncb.go.th/research_view.php?research id=505

ฐิตวันต์ หงส์กิตติยานนท์, อารยา ทิพย์วงศ์, ลักขณา ยอดกลกิจ, สายสมร เฉลยกิตติ. ผลของโปรแกรมการรับรู้ความสามารถของตนเองต่อพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดของเยาวชน. เวชสารแพทย์ทหารบก 2562;72(1):33-40.

สุรชัย พัฒนาอุดมชัย, ธีรชัย เนตรถนอมศักดิ์, จุฬาภรณ์ โสตะ. การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันการใช้ยาเสพติดของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น.วารสารสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น 2560;24(1):25-35.

ปรีดา ทัศนประดิษฐ์. จริยธรรมในการวิจัยผู้เสพสารเสพติด.ใน: สาวิตรี อัษณางค์กรชัย, อาภา ศิริวงศ์ ณ อยุธยา,บรรณาธิการ. ทศวรรษงานวิจัยด้านสารเสพติด วิธีวิจัยประยุกต์สู่บริบทประเทศไทย. กรุงเทพฯ: จรัญสนิทวงศ์การพิมพ์; 2556. หน้า 11-26.

ชาญชัย เอื้อชัยกุล. พืชกัญชา : ประโยชน์ โทษและข้อเสนอแนะการพัฒนาการกำกับดูแล[อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ สภาเภสัชกรรม;2560 [เข้าถึงเมื่อ 30 มีนาคม 2561].เข้าถึงได้จาก: https://ccpe.pharmacycouncil.org/index.php?option=article_detail&subpage=article_de

tail&id=354

จุฬาพัฒน์ ช่างเกตุ. กฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชา[อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กลุ่มงานพัฒนากฎหมาย สำนักกฎหมาย; 2562 [เข้าถึงเมื่อ 20 พฤษภาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://www.parliament.go.th/

ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=2247

กระทรวงยุติธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. กฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชา

[อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด; 2561 [เข้าถึงเมื่อ 18 กรกฎาคม

. เข้าถึงได้จาก: https://media.oncb.go.th/index.php/th/23-2018-02-20-07-04-07/2018-02-20-07-

-01/64-content5-21-5-61-1

ล่ำซำ ลักขณาภิชนชัช, สมพร สุวรรณมาโจ, ปราณี ภาณุภาส, วิมล ลักขณาภิชนชัช. ตำราการบำบัดผู้ป่วยเสพติดสารระเหย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2551.

ทิพาวรรณ บูรณสิน. บทความพิเศษเรื่องสาระเหย : กลิ่นเป็นพิษ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม[อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2560 [เข้าถึงเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2561]. เข้าถึงได้จาก: https://www.si.mahidol.ac.th/th/department/psychiatrics/cap/doctorNote_Tipawan090855/article%20special070855.pdf

ธีรธร มโนธรรม. มารู้จักสารระเหยกันเถอะ[อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองควบคุมวัตถุเสพติด; 2559 [เข้าถึงเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2561]. เข้าถึงได้จาก: https://db.oryor.

com/databank/data/printing//491218_Factsheet_มารู้จักสารละเหยกันเถอะ_792.pdf

Dowshen S. Inhalants [internet]. Florida: The Nemours Foundation; 2018 [cited 2019 Sep 20]. Available from: https://kidshealth.org/en/teens/inhalants.html

อัญชลี โตเอี่ยม, ปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา, ณัฐกมล ชาญสาธิตพร, กนิษฐา จำรูญสวัสดิ์. ปัจจัยทำนายการ เสพแอมเฟตามีนของเยาวชนในชุมชนแออัด.วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย 2559;9(2):88-103.

สายสุดา สุขแสง, รัชตา ธรรมเจริญ, เจตน์สฤษฎ์ สังขพันธ์. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมเสี่ยงใช้สารเสพติดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดสงขลา[อินเทอร์เน็ต]. สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่; 2558 [เข้าถึงเมื่อ 2 มิถุนายน 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://rd.hu.ac.th/Download%20File/Full%

Text%20zResearch/580908.pdf

วรางคณา นพฤทธิ์. ปัจจัยและแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน[อินเทอร์เน็ต].กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด; 2553 [เข้าถึงเมื่อ 3 ธันวาคม 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://www.20160908_13381154_protec_kid

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี. การป้องกันการกลับไปเสพซ้ำของผู้ป่วยยาเสพติด (Relapse prevention)

[อินเทอร์เน็ต]. (ม.ป.ป.). [เข้าถึงเมื่อ 3 ธันวาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://tph.go.th/th/news/sarak

naru_file/601127205600.pdf

ปิยวรรณ ทัศนาญชลี. กระบวนการไม่เสพยาบ้าซ้ำ: กรณีศึกษาผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับบำบัด. วารสารสหศาสตร์ศรีปทุม ชลบุรี 2554;1(3):36-48.

ศิริลักษณ์ ปัญญา. ปัจจัยเสี่ยงของการกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำของผู้รับการบำบัดยาเสพติดในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[อินเทอร์เน็ต]. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชธานี; 2560 [เข้าถึงเมื่อ 24 ตุลาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://mis.ratchathani.ac.th/file_re/

HVGOWM6Wed103104.pdf

อาภาศิริ สุวรรณานนท์. การศึกษารูปแบบการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด. วารสารบัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต 2558;11(2):213-7.

Published

2021-10-25

How to Cite

โชติวรางกูล นีรนุช. 2021. “Development of Knowledge Improvement Model Combining With Matrix Program Therapy for Relapse Prevention Among Patients With Substance Use Disorders”. Region 3 Medical and Public Health Journal - วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 18 (3). Nakhonsawan Thailand. https://thaidj.org/index.php/smj/article/view/10498.

Issue

Section

นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)