แนวทางการประเมิน วินิจฉัย และรักษากลุ่มอาการปวดตึงคอและบ่าชนิดไม่จำเพาะในการแพทย์ปฐมภูมิ
คำสำคัญ:
ปวดตึงคอและบ่าชนิดไม่จำเพาะ, ทบทวนวรรณกรรมเชิงระบบ, การแพทย์ปฐมภูมิบทคัดย่อ
อาการปวดตึงคอและบ่าชนิดไม่จำเพาะ พบบ่อยในวัยทำงานใกล้เคียงกับอาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายในการรักษา แต่ยังไม่พบแนวการประเมินและรักษาที่มีประสิทธิผล บทความนี้นำเสนอถึงแนวทางการประเมิน วินิจฉัย และการรักษา เพื่อใช้ในการแพทย์ปฐมภูมิ โดยสืบค้นจากฐานข้อมูล PubMed, Scopus, และ Science direct ตั้งแต่มกราคม พ.ศ. 2548 ถึงมิถุนายน พ.ศ. 2558 คำค้นคือ "mechanical neck pain", "non-specific neck pain", "randomized controlled trial", "systematic review" และ "primary medical care" พบว่า รูปแบบของการประเมินเพื่อวินิจฉัยเน้นประวัติและการตรวจร่างกาย ส่วนการส่งตรวจภาพถ่ายรังสี ตรวจทางห้องปฏิบัติการจะทำในกรณีกลุ่ม "red flags" ได้แก่ ปวดคอในกลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิดหรือภาวะติดเชื้อ และกลุ่มอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งต้องระวังมะเร็งระยะแพร่กระจาย การติดเชื้อ กระดูกหัก และหลอดเลือด ที่คอหรือสันหลังแตกเซาะ รวมถึงการบาดเจ็บและกลุ่มโรคภูมิต้านทานต่อตนเอง โดยจำแนกความรุนแรงของอาการปวดเป็น 4 ระดับ เพื่อใช้วางแนวทาง ติดตามอาการ ส่งตรวจและรักษา การปวดชนิดนี้มักพบความรุนแรงของอาการปวดระดับ 1 หรือ 2 ส่วนการรักษายังไม่สามารถบอกได้ว่าวิธีใดได้ผลดีกว่ากัน แต่การรักษาแบบผสมผสาน ช่วยบรรเทาอาการได้เร็วกว่าแบบวิธีเดียว ปัจจัยทำนายผลพบว่า อายุที่เพิ่มขึ้นและประวัติการปวดบริเวณอื่นๆ ก่อนการปวดตึงคอและบ่า มีผลเชิงลบที่ความเชื่อมั่นปานกลางและสูง การออกกำลังกายเป็นประจำก่อนที่จะเริ่มมีอาการปวดสามารถป้องกันการเกิดการปวดคอเรื้อรังได้ แต่ที่ความเชื่อมั่นระดับต่ำ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.